วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2553

ความใฝ่ฝันของฉัน


ความใฝ่ฝันของฉัน

คนเราทุกคนเกิดย่อมมี “ความใฝ่ฝัน” ความที่อยากจะเป็นโน่นนั่น ซึ่งความใฝ่ฝันของแต่ละบุคคลก็มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็จะเป็นตามลักษณะนิสัย บุคลิก และความชื่นชอบของแต่ละบุคคล บางคนมีความถนัดทางวิชาการก็อยากจะเป็นหมอ พยาบาล วิศวะ นักวิชาการ บางคนถนัดทางด้านศิลปะหรือทางด้านการเข้าสังคม การพูดก็มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก นักธุรกิจ การเมือง ผู้ประกาศข่าว นักข่าว ซึ่งก็แตกต่างกันออกไป
สำหรับตัวฉันความใฝ่ฝันของฉันอาจจะดูธรรมดา ฉันฝันอยากจะเป็นคุณครู ฉันฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากสอนหนังสือ อยากถ่ายทอดความรู้ การเป็นครูไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การเป็นครูที่เก่งทำได้ไม่ยากแต่การเป็นครูที่ดีและเก่งนั้นทำได้ยาก ในอดีตความสัมพันธ์ของครูประจำชั้นจะเปรียบเสมือนผู้ปกครองคนที่สอง ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ อบรมสั่งสอน ช่วยแก้ปัญหา และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับบ้าน อันเป็นผลทำให้ครูและโรงเรียนได้รับความศรัทธาพร้อมทั้งมีบุญคุณต่อนักเรียนและครอบครัว แต่ในปัจจุบันค่านิยมได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะครูในปัจจุบันมีหน้าที่แต่สอนอย่างเดียว เมื่อหมดหน้าที่ก็จบไป ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ว่าลูกศิษย์ของตนนั้นจะได้รับความรู้มากน้อยเพียงใด เข้าใจหรือไม่ ครูที่ดีนั้นในความคิดของฉันจะต้องมีจรรยาบรรณในการเป็นครูที่ดี คือจะต้องศรัทธาต่อวิชาชีพ ผู้ที่อยู่ในวงการวิชาชีพครู ต้องมีความรักและศรัทธาต่อวิชาชีพครู เห็นว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นอาชีพที่สร้างคนให้มีความรู้ความสามารถ และเป็นคนที่พึงประสงค์ของสังคม ผู้อยู่ในวิชาชีพจะต้องมั่นใจ ในกาประกอบวิชาชีพนี้ด้วยความรัก และชื่นชมในความสำคัญของวิชาชีพ อีกทั้งจะต้องธำรงและปกป้องวิชาชีพ สมาชิกของสังคมวิชาชีพต้องมีจิตสำนึกในการธำรง ปกป้อง และรักษาเกียรติภูมิของวิชา ไม่ให้ใครมาดูหมิ่นดูแคลน หรือเหยียบย่ำ ทำให้สถานะของวิชาชีพต้องตกต่ำ หรือ มัวหมองการธำรงปกป้องต้องกระทำทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาหรือต้องมีการแก้ไขข่าวหรือประท้วงหากมีข่าวคราวอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อวิชาชีพ
ในความคิดของฉัน ในอนาคตถ้าฉันเป็นครู ฉันจะปฏิบัติตั้งใจถ่ายทอดวิชาการ บทบาทของครูต้องพยายามที่จะทำให้ลูกศิษย์เรียนด้วยความสุข เรียนด้วยความเข้าใจ และเกิดความมานะพยายามที่จะรู้ในศาสตร์นั้น ครูจึงต้องตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะศึกษาวิชาการทั้งทางศาสตร์ที่จะสอน ศาสตร์ที่จะถ่ายทอดหรือวิธีการสอน ครูต้องพยายามที่จะหาวิธีการใหม่ ๆ มาลองทดลองสอน ฉันจะรักและเข้าใจศิษย์ ครูต้องพยายามศึกษาธรรมชาติของวัยรุ่น ว่ามีปัญหามีความไวต่อความรู้สึก (sensitve) และอารมณ์ไม่มั่นคง ครูจึงควรให้อภัย เข้าใจ และหาวิธีการให้ศิษย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ครูต้องพยายามทำให้ลูกศิษย์รักและไว้ใจเพื่อที่จะได้กล้าปรึกษาในสิ่งต่างๆแล้วครูก็จะสามารถช่วยให้ศิษย์ประสบความสำเร็จในการเรียน และการดำรงชีวิตได้อย่างถูกต้อง ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี ครูมีอิทธิพลต่อศิษย์ทั้งด้านวาจา ความคิด บุคลิกภาพ และความประพฤติ ครูจึงจะต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ซึมซับสิ่งที่ทำจากตัวครูไป เมื่อศิษย์เกิดศรัทธาในความสามารถของครู ศิษย์อาจจะเลียนแบบความประพฤติของครูไปอย่างไม่ได้เจตนา เช่น การตรงต่อเวลา การพูดจาชัดเจน การแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา สุภาพเรียบร้อย ช่วยเหลือศิษย์ผู้เรียนมาอยู่ในสถานศึกษาพร้อมด้วยประสบการณ์และปัญหาที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นครูจึงมีหน้าที่ที่จะต้องสังเกตความผิดปกติหรือข้อบกพร่องของศิษย์ และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ไม่ให้ศิษย์ต้องก้าวถลำลึกลงไปในพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ความใฝ่ฝันของฉันอาจจะดูเล็กน้อย แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่าการได้สร้างคนให้เป็นคนขึ้นมาเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเด็กเป็นอนาคตของประเทศชาติ สอนให้คนมีความรู้ขึ้นมาเพื่อไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้ายื่งขึ้น ครูอาจจะเป็นเพียงจุดเล็กๆของสังคม เงินเดือนน้อย แต่อาชีพครู ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่หน้าภูมิใจ เพราะถ้าไม่มีครู ก็คงไม่เกิดคนที่มีคุณภาพขึ้นมาอย่างแน่นอน

แหล่งอ้างอิง :
http://www.kroobannok.com/2605 (จรรยาบรรณวิวชาชีพครู)
:
http://th.wikipedia.org/wik (ความหมายของครู)
:
http://dek-d.com/board/view.php?id=1150749 (อาชีพครู)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น